ไทยออยล์ ปั้น “น้องท็อป” แรดขาว แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว แบรนด์แอมบาสเดอร์ สื่อสารภารกิจด้านสิ่งแวดล้อม ชวนสื่อฯ-คนรุ่นใหม่ปลูกป่าฉลองวันเกิดครบรอบ 2 ขวบ

วันนี้ (15 กรกฎาคม ) กลุ่มไทยออยล์ สร้างสรรค์แนวทางการสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรด้านสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงตราสัญลักษณ์ หรือมาสคอตผ่าน “แรดขาว” จากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้จัดกิจกรรม “พลังคนรุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ชวนสื่อมวลชนศรีราชาและนักศึกษาฝึกงานกลุ่มไทยออยล์ ปลูกต้นไม้ “ต้นพะยูง” พืชอาหารแรดขาว เพิ่มพื้นที่สีเขียว

พร้อมกับสนับสนุนเวชภัณฑ์แรดขาว เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ให้กับเยาวชนและสาธารณชน

โดย กลุ่มไทยออยล์ได้ ดำเนินโครงการความร่วมมือกับสวนสัตว์เปิดเขาเขียวอย่างมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2565 มุ่งสร้างประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณจุดจัดแสดงแรดขาว การติดตั้งป้ายให้ความรู้และช่องทางสื่อสารของบริษัทฯ การมอบอุปกรณ์ส่งเสริมสุขภาวะแรดขาว ไปจนถึงการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อเยาวชน เช่น บูธกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ จัดค่ายภาษาอังกฤษให้เยาวชนรอบโรงกลั่น และกิจกรรมจิตอาสากับนักศึกษาฝึกงาน

รวมถึงได้เข้าร่วมโครงการ “อุปถัมภ์สัตว์ป่า” เนื่องจากแรดขาว เป็นสัตว์ที่พบว่าใกล้ถูกคุมคามและจะสูญพันธุ์ และเมื่อปี 2566 จากการที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ประกาศข่าวดีที่แรดขาว สามารถให้กำเนิดลูกแรดขาวตัวที่ 2 ของประเทศไทย และได้ให้เกียรติไทยออยล์ในการตั้งชื่อลูกแรดขาวตัวที่สองว่า “น้องท็อป” ตามชื่อย่อภาษาอังกฤษของไทยออยล์ (TOP)

ในปีนี้ เนื่องในโอกาสพิเศษ ครบรอบ 2 ปี ของ “น้องท็อป” กลุ่มไทยออยล์ นำโดยแผนกประชาสัมพันธ์โรงกลั่น จัดกิจกรรม “พลังคนรุ่นใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิด “น้องท็อป” โดยกิจกรรมประกอบไปด้วย การเรียนรู้บทบาทและภารกิจของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ความเชื่อมโยงระหว่างไทยออยล์กับแรดขาว การปลูกต้นไม้พันธุ์อาหารสัตว์เพื่อเป็นอาหารแรดขาวและเพิ่มพื้นที่สีเขียว และไฮไลท์สำคัญคือการมอบเค้กผลไม้วันเกิดให้กับ “น้องท็อป” ควบคู่ไปกับการมอบเงินสนับสนุนค่าเวชภัณฑ์แรดขาว ภายใต้โครงการอุปถัมภ์สัตว์ป่า

กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มไทยออยล์ร่วมกับองค์กรพันธมิตรในการให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมั่นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและความยั่งยืนของโลกสามารถเดินไปด้วยกันได้ เพื่อส่งต่อโลกที่ดีขึ้นให้กับคนรุ่นถัดไป